สะเก็ดดาวที่ค่อย ๆ ส่องแสง เอดูอาร์ เมนดี้

สะเก็ดดาวที่ค่อย ๆ ส่องแสง เอดูอาร์ เมนดี้


กว่าที่ดวงดาวบนท้องฟ้าจะเกิดเป็นแสงแวววาวระยิบระยับให้เรามองเห็นนั้น มันใช้เวลาเดินทางที่ยาวนานเป็นหมื่น ๆ ล้าน ๆ ปีแสง เพราะแสงที่เรามองเห็น เกิดขึ้นมาจากการสะสมของพลังงานที่ถูกปลดปล่อยมาจากปฎิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของดาวฤกษ์กลายเป็นรังสีแกมม่าพุ่งชนกันไปมาอย่างยาวนาน จนเกิดเป็นแสงสว่างขึ้นมา 


ที่ต้องยกตัวอย่างการเกิดแสงของดวงดาวขึ้นมานั้น เพราะว่าในวงการฟุตบอลมันก็เป็นเหมือนกับอวกาศกว้างใหญ่ ที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวนับล้านดวง แข่งกันส่องแสงสว่างวับวาว เพื่อให้ดวงตาของผู้ชมอย่างเราเฝ้ามองเห็น และก็เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะมีดาวบางดวงแตกสลายก่อนที่จะเฉิดฉาย สลับกับดาวอีกหลายดวงที่เปล่งประกายบนท้องฟ้าอย่างยาวนาน

หากเปรียบ เอดูอาร์ เมนดี้ กับดวงดาวทั้งหลายในจักรวาลของโลกฟุตบอลนั้น ในทีแรกเขาเป็นเสมือนดั่งสะเก็ดดาวที่มืดมิดและโดนบดบังด้วยดาวฤกษ์ทั้งหลายแหล่ การเกิดมาในครอบครัวผู้อพยพชาวกินี - บิสเซาเชื้อสายเซเนกัลนั้น แม้ว่าครอบครัวจะสามารถลงหลักปักฐานอยู่ในฝรั่งเศสได้อย่างไม่ลำบากอะไร แต่เส้นทางการเป็นนักเตะของดาวดวงนี้ก็ยังไม่ถึงกับโรยด้วยกลีบกุหลาบซะทีเดียว


การฝึกฝนวิชากับทีมท้องถิ่นของประเทศฝรั่งเศส ในตอนที่ตัวเองอายุ 7 ขวบและก็ได้จรดปากกาเซ็นสัญญากับทีมในลีกระดับที่ 4 ด้วยวัย 19 ปีนับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็เหมือนกับชีวิตที่วนลูปเพราะถึงแม้จะเป็นแค่ทีมระดับสมัครเล่นแต่ตัวของ เมนดี้ เองก็ไม่ได้รับโอกาสให้ลงเล่นสักเท่าไหร่นักก่อนที่จะต้องแยกทางกันไป


การต้องตกเป็นคนว่างงานในตอนที่อายุ 22 ปี อาจจะเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนลำบากสำหรับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ความสับสนอลหม่านในชีวิต ทำให้เขาเกิดความสงสัยกับตัวเองขึ้นมาว่า นี่เขาเหมาะสมกับเส้นทางเดินที่เลือกนี้จริง ๆ หรือไม่ การเดินเข้าไปในศูนย์จัดหางานเพื่อคนว่างงานภายในเมืองเลอร์อาร์ฟ บ้านเกิดทำให้เขาขาดความมั่นใจ แต่การไม่เลือกทิ้งความฝันก็ยังคงเป็นสิ่งที่เขายึดมั่นอยู่ ระหว่างที่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในศูนย์จัดหางาน เมนดี้ เองก็เลือกที่จะฝึกซ้อมกับ สโมสรเลอร์อาร์ฟ เอซี ทีมในลีกเดอซ์ ระดับที่ 2 แบบที่ไม่ได้ค่าตัวควบคู่ไปด้วย เพื่อเป็นการรักษาความฟิตและยังคงเป็นการรักษาความฝันควบคู่กันไป


เมนดี้ ที่ตอนนี้ยังคงเป็นสะเก็ดดาวใช้เวลาอยู่ที่นี่ถึง 1 ปีเต็ม ก่อนที่จะได้รับข่าวดีว่าทีมใหญ่อย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย กำลังต้องการผู้รักษาประตูคนใหม่ ถึงแม้จะเป็นเพียงทีมสำรองแต่เมื่อเห็นโอกาสเขาก็ตอบตกลงทันที และเมื่อได้ขยับมาอยู่ถูกที่ การได้ร่วมฝึกซ้อมกับโค้ชชั้นนำและมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน การได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ทำให้สะเก็ดดาวดวงนี้เริ่มสะสมรังสีแกมม่าทีละนิดทีละน้อย


และการที่เรายังมีความหวังและความพยายาม ในช่วงเวลาที่โลกยังไม่สามารถมองเห็นดวงดาวที่ชื่อว่า เอดูอาร์ เมนดี้ เขาเก็บสะสมประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ พัฒนาฝีมือและไต่เต้ามาอย่างเงียบ ๆ และเมื่อเวลาเหมาะสม หนุ่มคนนี้ก็ได้รับโอกาสจาก แรงส์ สโมสรในลีกเดอซ์ระดับ 2 ของประเทศยื่นปากกาให้เขาจรดลายเซ็นการเป็นนักเตะอาชีพฉบับแรกลงบนกระดาษ และถึงแม้จะเริ่มต้นจากการเป็นมือ 2 ของทีม แต่นี่แหละคือรสชาติของการเล่นฟุตบอลระดับอาชีพที่ชายชื่อเมนดี้โหยหา


การไม่เคยได้ลงสนามเป็นตัวจริงทำให้ เมนดี้ เปรียบเสมือนไวน์ชั้นดีที่ได้รับการบ่มเพาะมาอย่างยาวนาน และเมื่อถึงเวลาที่ทุกคนจะได้ลิ้มรสชาติ ไวน์ขวดนั้นก็ควรค่าแก่การรอคอย เมื่อฤดูกาล 2016/17 จาก 7 เกมแรกที่ได้โอกาสลงสนามเขาก็สามารถเก็บคลีนชีตได้ทั้ง 3 นัดพร้อมกับลีลาการเซฟลูกสำคัญอีกมากมายให้กับทีม และในฤดูกาล 2017/18 เมนดี้ก็สามารถคว้าตำแหน่งมือหนึ่งของทีมมาครองได้สำเร็จและเป็นส่วนสำคัญในการพา สโมสรแรงส์ ก้าวขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดของประเทศฝรั่งเศสอย่าง ลีกเอิง และเมื่อจบฤดูกาลต่อมา สโมสรน้องใหม่ ก็สามารถพุ่งทะยานไปถึงอันดับที่ 8 ของตารางโดยเสียไปแค่ 42 ประตูจาก 38 นัดเท่านั้นเอง 


จากสะเก็ดดาวที่ถูกหลาย ๆ สายตามองข้าม ในตอนนี้เขาพร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในดาวฤกษ์ที่พร้อมส่องแสงจาก สโมสรแรงส์ สู่ สโมสรแรนส์ ทีมที่ชื่อคล้ายกัน ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์ แน่นอนว่า เมนดี้ ต้องรู้ว่าในตอนนี้ตัวเองกำลังทะยาน แต่ก็ไม่อาจคิดฝันว่าจะทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนี้ หลังจากโชว์ฟอร์มรักษาประตูจนทีมสามารถจบอันดับที่ 3 ได้ในฤดูกาล 2019/20 ประจวบเหมาะกับการที่ สโมสรเชลซีกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับผู้รักษาประตู 


และเพราะการมีรุ่นพี่อย่าง ปีเตอร์ เช็ค เป็นคนคอยติดต่อ นั่นจึงทำให้เขาบินข้ามน้ำข้ามทะเลมายังลีกที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งและบันเทิงที่สุดในโลกอย่างพรีเมียร์ลีก ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ สุดท้ายใครจะไปเชื่อว่านี่คือค่าตัวของนักเตะที่เคยตกงานเมื่อ 6 ปีก่อน 


การมาอยู่ในทีมเชลซี แม้ในตอนแรกถูกมองว่าจะมาในฐานะตัวแทนของผู้รักษาประตูที่มีค่าตัวเยอะที่สุดอย่าง เกป้า แต่การมีสถิติการเซฟลูกกลางอากาศถึง 10.2% ที่ตัวของเมนดี้เองเหนือกว่า และอาจจะเหนือกว่าบรรดาผู้รักษาประตูระดับโลก ดังนั้น ตำแหน่งมือหนึ่งก็ตกมาอยู่ในมือของเขาภายในปีนั้นทันที


  ผลงาน 9 คลีนชีตในรายการใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก และเป็นส่วนสำคัญในการพา สโมสรเชลซี คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 บวกกับฟอร์มการเป็นซูปเปอร์เซฟในนัดสำคัญ ๆ ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2021/22 ที่เราได้เห็นกันทุกนัดนั้น หลังจากเขาได้ค่อย ๆ สะสมผลงานเรื่อย ๆ เหมือนกับสะเก็ดดาวที่ค่อย ๆ สะสมรังสีแกมม่า ในตอนนี้สะเก็ดดาวที่ชื่อ เอดูอาร์ เมนดี้ ก็เริ่มเปล่งแสงระยิบระยับเป็นดาวฤกษ์ เรียกความสนใจจากคนดูและพร้อมส่องแสงสว่างวับวาว อยู่ในอวกาศของวงการฟุตบอลได้อย่างสมภาคภูมิ


ดูข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : Goalstorm











ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ช้างศึกตกมัน ตบทัพดาวทองหมดสภาพ

จากเด็กน้อยสู่วัยที่ต้องโตเป็นผู้ใหญ่ อารอน แรมส์เดล